วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2556


Fraais...


***********************************

J'ai moi...
 Bonjour,Je m'appelle Itthiphon TARAMA.
J'ai 17 ans.Je suis élève à l'ecole de Wangklaikangvol.
Je vien de Chiang Rai.
J'habite à Hua Hin.
J'adore l'Anglais et français.
Je déteste les maths.
Je suis fan de Knomlean Kulamas Limpawutwaranon.Elle les Chanteuse.

-----------------------------------------------

      Il y a 28 pays dans l'Union Européenne.

États membres de l'Union européenne
Nom français
(forme courte)
Date
d'adhésion
CodeN 1Nom local
(forme courte)
CapitaleLangue(s) officielle(s)Monnaie
Drapeau de l'Allemagne Allemagne25 mars 1957DEDeutschlandBerlinallemand (de)euro (EUR, €)
Drapeau de l'Autriche Autriche1er janvier 1995ATÖsterreichVienneallemand (de)euro (EUR, €)
Drapeau de la Belgique Belgique25 mars 1957BEBelgiqueBelgiëBelgienBruxellesfrançais (fr), néerlandais (nl), allemand (de)euro (EUR, €)
Drapeau de la Bulgarie Bulgarie1er janvier 2007BGБългария (Bălgaria)Sofiabulgare (bg)lev (BGN)
Drapeau de Chypre ChypreN 21er mai 2004CYΚύπρος (Kýpros)KıbrısNicosiegrec (el), turc (tr)euro (EUR, €)N 3
Drapeau de la Croatie Croatie1er juillet 2013HRHrvatskaZagrebcroate (hr)kuna (HRK, kn)
Drapeau du Danemark Danemark1er janvier 1973DKDanmarkCopenhaguedanois (da)couronne (DKK)
Drapeau de l'Espagne Espagne1er janvier 1986ESEspañaMadridespagnol (es)euro (EUR, €)
Drapeau de l'Estonie Estonie1er mai 2004EEEestiTallinnestonien (et)euro (EUR, €)
Drapeau de la Finlande Finlande1er janvier 1995FISuomiFinlandHelsinkifinnois (fi), suédois (sv)euro (EUR, €)
Drapeau de la France France25 mars 1957FRFranceParisfrançais (fr)euro (EUR, €)
Drapeau de la Grèce Grèce1er janvier 1981ELGRN 4Ελλάδα (Elláda), Ελλάς (Ellás)Athènesgrec (el)euro (EUR, €)
Drapeau de la Hongrie Hongrie1er mai 2004HUMagyarországBudapesthongrois (hu)forint (HUF, Ft.)
Drapeau de l’Irlande Irlande1er janvier 1973IEÉireIrelandDublinirlandais (ga), anglais (en)euro (EUR, €)
Drapeau de l'Italie Italie25 mars 1957ITItaliaRomeitalien (it)euro (EUR, €)
Drapeau de la Lettonie Lettonie1er mai 2004LVLatvijaRigaletton (lv)euro (EUR, €)
Lituanie Lituanie1er mai 2004LTLietuvaVilniuslituanien (lt)litas (LTL)
Drapeau du Luxembourg Luxembourg25 mars 1957LULëtzebuergLuxembourgLuxemburgLuxembourgluxembourgeois (lb), français (fr), allemand (de)euro (EUR, €)
Malte Malte1er mai 2004MTMaltaLa Valettemaltais (mt), anglais (en)euro (EUR, €)
Drapeau des Pays-Bas Pays-Bas25 mars 1957NLNederlandAmsterdamN 5néerlandais (nl)euro (EUR, €)
Drapeau de la Pologne Pologne1er mai 2004PLPolskaVarsoviepolonais (pl)złoty (PLN, zł.)
Drapeau du Portugal Portugal1er janvier 1986PTPortugalLisbonneportugais (pt)euro (EUR, €)
Drapeau de la République tchèque République tchèque1er mai 2004CZČeská republikaPraguetchèque (cz)couronne (CZK)
Roumanie Roumanie1er janvier 2007RORomâniaBucarestroumain (ro)leu (RON)
Drapeau : Royaume-Uni Royaume-Uni1er janvier 1973UKGBN 6United KingdomLondresanglais (en)livre sterling (GBP, £)
Drapeau de la Slovaquie Slovaquie1er mai 2004SKSlovenskoBratislavaslovaque (sk)euro (EUR, €)
Drapeau de la Slovénie Slovénie1er mai 2004SISlovenijaLjubljanaslovène (sl)euro (EUR, €)
Drapeau de la Suède Suède1er janvier 1995SESverigeStockholmsuédois (sv)couronne (SEK)
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>><<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
Il y a 7 Continents dans le monde
     - En Amérique du nord
     - En Amérique du sud
     - En Europe
     - En Asie
     - En Afrique
     - En Océanie
     - En Antartique



Il y a 27 pays dans l'Union Européenne
    - La France                            ►        Paris  
    - L'Allemagne                        ►        Berlin 
    - La Belgique                         ►        Bruxlles
    - L'Espagne                           ►        Madrid
    - La Grèce                              ►        Athènes
    - La Hongrie                          ►        Budapest
    - L'Italie                                 ►        Rome
    - La Lituanie                          
    - Malte                                   
    - Les Pays-Bas                     
    - La Pologne                         
    - Le Portugal                        
    - Le Royaume-uni                 ►       Londres
    - La Slovaquie                       ►       Bratislava
    - La Suède                           
    - La Finlande                         ►       Helsinki
    - L'Eststonie                         
    - La Lettonie                         
    - Le Danemark                      ►       Copenhague
    - L'Irlande                            
    - La Répubique Ichéque     
    - La Slovénie                        
    - L'Autriche                           
    - Chypre                                 
    - La Roumanie                       
    - La Bulgarie                        

    - Le Luxembourg                  ►      Luxembourg

On parle 6 langues à l'ONU
    - l'anglais
    - le français
    - l'espagnol
    - l' arabe
    - le russe
    - lechinois



Lan Hin Pum Lan Hin Teak

          อากาศร้อนๆ ฝนๆ แบบนี้ถ้ายังไม่รู้ว่าจะมุ่งหน้าไปเที่ยวที่ไหนหรือยังไม่มีแผนการในใจ ลองไปเที่ยว “อุทยานแห่งชาติภูหินล่องกล้า” กันมั้ยค่ะ สถานที่ซึ่งมีเรื่องราว และประวัติศาสตร์มากมายที่รอคอยให้นักท่องเที่ยวทุกคนไปค้นหา ซึ่งการเดินทางไปเที่ยวในอุทยานแห่งชาติภูหินล่องกล้าในครั้งแรกนี้ เราเลือกที่จะเริ่มเที่ยวตามจุดท่องเที่ยวสำคัญๆ กันก่อนแห่งชาติภูหินล่องกล้า กินพื้นที่คาบเกี่ยว 3 จังหวัดได้แก่ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และ เลย ซึ่งนอกจากสภาพภูมิประเทศที่เป็นภูเขาสลับซับซ้อน มีผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์แล้ว ยังมีความมหัศจรรย์ทางธรณีวิทยาที่เกิดจากการเคลื่อนและยกตัวของแผ่นเปลือก โลก ทำให้เกิด “ลานหินปุ่ม” เป็นลานกว้างโดยมีหินขึ้นตะปุ่มตะป่ำกระจายอยู่เต็มลาน หินที่ว่านี้มีลักษณะเป็นเสาหินกลมมนเตี้ยๆเรียงกันเป็นแถวอย่างน่าดู โดยปุ่มหินดังกล่าวมีความสูงเพียง15 เซนติเมตร และมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 30 เซนติเมตร และด้วยความที่ลานหินปุ่มนี้ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของอุทยานแห่งชาติฯ จึงนับเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมากแห่งหนึ่ง ถัดจากลานหินปุ่มนั้น เราเดินต่อมาอีกประมาณ 500 เมตร ก็จะพบกับ “ผาชูธง” สถานที่ที่ พรรคคอมมิวนิสต์ในอดีตใช้ในการชูธงฆ้อนเคียวผืนสีแดง ยามที่รบชนะฝ่ายรัฐบาลเป็นเหมือนการประกาศให้ผู้ร่วมอุดมการณ์เดียวกันมี ขวัญกำลังใจเพิ่มขึ้น บริเวณนี้เป็นหน้าผาสูง สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์โดยรอบแบบ 360 องศาแต่การขึ้นไปบริเวณผาชูธงนี้ควรใช้ความระมัดระวังด้วย เนื่องจากเป็นพื้นที่ค่อนข้างแคบ


หลังจากที่เราชมวิวบริเวณผาชูธงแล้ว จุดถัดมาก็จะเป็น “ซันแครก” บริเวณลานกว้างที่มีร่องรายทางประวัติศาสตร์ของการต่อสู้จารึกไว้ให้เราได้ เห็นเช่น รอยหลุมระเบิดและรอยกระสุนปืนที่เป็นในช่วงการกวาดล้างคอมมิวนิสต์ รวมถึงป้อมปืนต่อสู้อากาศยานที่ตั้งโดดเด่นอยู่กลางลาน ซึ่งที่บริเวณนี้นอกจากเรื่องราวทางประวัติศาสตร์การเมืองที่มีความสำคัญ แล้ว สิ่งที่พลาดไม่ได้ก็คือ ซันแครก ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่น่าทึ่ง อันเกิดการจากการบีบอัดและยกตัวของผิวโลก สันนิษฐานว่าพื้นที่บริเวณนี้เคยเป็นทะเลมาก่อน และเมื่อเวลาผ่านไปทั้งแสงแดด สายลม น้ำฝน รวมถึงสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงระหว่างกลางวันและกลางคืน ทำให้หินบริเวณนี้เกิดรอยแตกเป็นชั้นๆ คล้ายเกล็ดปลาเรียงตัวกันสูงกว่า 2 เมตรการเดินเที่ยวชมไปตามจุดต่างๆ นี้ ต้องบอกว่าเรียกเหงื่อกันได้อยู่พอสมควร แต่อย่าเพิ่งหมดแรงกันซะก่อน เพราะเราจะพาไปเที่ยวกันต่อที่ “ลานหินแตก” ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากบริเวณลานหินปุ่มมากนัก



ที่ลานหินแตกนี้เป็นลานหินที่มีบริเวณกว้างถึง 40 ไร่เลยทีเดียว โดยจุดเด่นของลานหินนี้ก็เป็นไปตามชื่อเรียกนั่นคือ รอยแยกของลานหินเป็นร่องลึก ดูคล้ายกับแผ่นดินนั้นแยกออกจากกัน รอยแตกนี้บางร่องก็มีขนาดกว้างพอให้ก้าวข้ามได้ ในขณะที่บางรอยก็กว้างจนเราต้องเดินอ้อมไกลออกไป ส่วนความลึกนั้นไม่สามารถคาดคะเนได้ แต่ด้วยลักษณะเช่นนี้จึงทำให้ความชื้นในบริเวณนี้มีมากกว่าที่อื่นๆ ในบริเวณใกล้กัน ทำให้มีพวกไลเคนมอสส์เฟิร์นดอกไม้ป่า และกล้วยไม้นานาชนิดแปลกตาผลัดเปลี่ยนกันตามฤดูกาลให้เราได้ชมอีกด้วยนอกจากนี้ภายในบริเวณอุทยานแห่งชาติภูหินล่องกล้า ยังมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจอีกมากมายเช่นพิพิธภัณฑ์ การสู้รบ,โรงเรียนการเมืองการทหาร, กังหันน้ำ, สำนักอำนาจรัฐ, โรงพยาบาลรัฐ, ลานอเนกประสงค์, สุสาน ทปท.ที่หลบภัยทางอากาศและหมู่บ้านมวลชน เป็นต้น



ซอยเจริญกรุง 36 เปลี่ยนชื่อกระชับความสัมพันธ์ไทยฝรั่งเศส


     วันที่ 15 ก.พ. 56 สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย ได้จัดพิธีเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสที่ซอยเจริญกรุง 36 (หรือซอยโรงภาษีเก่า) จะมีชื่อใหม่อีกชื่อว่า "รู เดอ แบรสต์" (Rue De Brest) หรือ "ถนนแบรสต์" ซึ่งซอยดังกล่าวเป็นที่ตั้งของสถานทูตฯ รวมถึงทำเนียบของเอกอัครราชทูตด้วย
     ผู้เสนอชื่อถนนนี้คือ ท่านทูตฌิลดาร์ เลอลีเดค อดีตเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย ซึ่งกลับมาร่วมพิธีฉลองครั้งนี้ โดยมีท่านทูตตีแยรี วีโต เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทยและภริยา ตัวแทนจากกระทรวงวัฒนธรรมและกรุงเทพมหานครและท่านรองปลัดกรุงเทพมหานคร ฯ ร่วมเปิดป้ายชื่อถนน และมีนายกเทศมนตรีเมืองแบรสต์เดินทางมาร่วมงานด้วย

     ย้อนไปเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2229 คณะราชทูตสยามนำโดยเจ้าพระยาโกษาปาน เดินทางทางเรือถึงประเทศฝรั่งเศสโดยมีจุดมุ่งหมายที่จะเข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ที่เมืองแวร์ซายส์ และขึ้นฝั่งที่เมืองแบรสต์ แคว้นเบรอตาญของประเทศฝรั่งเศส 


ถนน "รู เดอ สยาม" เมืองแบรสต์ ฝรั่งเศส 
     ชาวเมืองเรียก "ถนนแซงต์-ปิแอร์" ซึ่งคณะราชทูตใช้เป็นทางผ่านว่า "รู เดอ สยาม" (Rue De Siam) หรือ "ถนนสยาม" จนคุ้นเคย และใช้ชื่อนี้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2354 ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวผ่านไปเกือบ 202 ปีแล้ว ในเมือง "แบรสต์" เมืองประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ไทยฝรั่งเศส


ภายในงานนอกจากพิธีการเปิดป้ายถนนแบรสต์อย่างเป็นทางการแล้ว ยังมีกิจกรรมด้านวัฒนธรรมและอาหารของแคว้น "เบรอตาญ" ลิ้มลอง ซึ่งได้รับความร่วมมือจากหน่วยงาน UBIFRANCE, สำนักงานการท่องเที่ยวจังหวัดฟินิสแตร์ (ฝรั่งเศส), หอการค้าฝรั่งเศส-ไทย, ศูนย์การค้าโอ.พี.การ์เด้น, บจม.ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ และโรงแรมอิมพีเรียลควีนส์ปาร์ค


     นอกจากนี้ยังมีการแสดงจากศิลปินดนตรีพื้นเมือง Kerlenn-Pondi จากเมืองแบรสต์ ชมการเต้นรำแบบพื้นเมืองของแคว้นเบรอตาญ โดยคณะนักศึกษาไทยของมหาวิทยาลัยรังสิต รวมทั้งนิทรรศการ "ประวัติของถนนสยาม" ตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 จนกระทั่งปัจจุบัน บนกำแพงของสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส ซึ่งจัดทำโดยฝ่ายข้อมูลของเทศบาลเมืองแบรสต์



อาหารขึ้นชื่อของฝรั่งเศส




     ครัวซอง ( croissant) คือขนมอบชนิดหนึ่งที่กรอบ ชุ่มเนย และโดยทั่วไปจะมีลักษณะโค้งอันเป็นที่มาของชื่อ "croissant" ซึ่งในภาษาฝรั่งเศสหมายถึง "จันทร์เสี้ยว" บางทีก็ถูกเรียกว่า crescent roll (โรลจันทร์เสี้ยว)การทำครัวซองค์จะต้องใช้แป้งพายชั้น (puff pastry - พัฟ เพสทรี่) ที่ผสมยีสต์ นำมารีดให้เป็นแผ่น วางชั้นของเนยลงไป พับและรีดให้เป็นแผ่นซ้ำไปมา ตัดเป็นแผ่นสามเหลี่ยม นำไปม้วนจากด้านกว้างไปด้านแหลม บิดปลายให้โค้งเข้าหากัน อบโดยใช้ไฟแรงให้เนยที่แทรกอยู่เป็นชั้นดันแป้งให้ฟูก่อน จึงค่อยลดไฟลงไม่ให้ไหม้



     ฟัวกรา ( Foie gras ) แปลเทียบเคียงว่า fat liver คือตับห่านหรือเป็ดที่ถูกเลี้ยงให้อ้วนเกิน ฟัวกราได้ชื่อว่าเป็นอาหารฝรั่งเศสที่ดีที่สุด เช่นเดียวกับทรัฟเฟิล มีลักษณะนุ่มมันและมีรสชาติที่แตกต่างจากตับของเป็ดหรือห่านธรรมดา
     ใน พ.ศ. 2548 ทั่วโลกมีการผลิตฟัวกราประมาณ 23,500 ตัน ในจำนวนนี้ ประเทศฝรั่งเศสเป็นผู้ผลิตมากที่สุดคือ 18,450 ตัน หรือร้อยละ 75 ของทั้งหมด โดยร้อยละ 96 ของฟัวกราจากฝรั่งเศสมาจากตับเป็ด และร้อยละ 4 มาจากตับห่าน ประเทศฝรั่งเศสบริโภคฟัวกราใน พ.ศ. 2548 เป็นจำนวน 19,000 ตัน
     ประเทศฮังการีผลิตฟัวกรามากเป็นอันดับสอง และส่งออกมากเป็นอันดับหนึ่ง คือ 1,920 ตันใน พ.ศ. 2548 โดยเกือบทั้งหมดส่งออกไปที่ฝรั่งเศส


     คีช ( quiche) เป็นอาหารจานอบชนิดหนึ่งโดยมีส่วนประกอบหลักคือ ไข่ นม หรือ ครีม ถึงแม้ว่าคีชจะมีลักษณะคล้ายพายแต่คีชถูกจัดเป็นอาหารคาว โดยในคีชอาจมีส่วนประกอบอื่นเช่น เนื้อสัตว์ ผัก เนยแข็ง     ถึงแม้ว่าคีชจะมีส่วนประกอบหลายอย่างคล้ายอาหารประเภทพาสตา แต่ไม่ถูกจัดว่าเป็นส่วนหนึ่งของพาสตา


ราทาทุย ( Ratatouille ) เป็นอาหารพื้นเมืองของฝรั่งเศส ในเขต Provençal โดยมีลักษณะเป็นสตูว์ผัก มีต้นกำเนิดมาจากเมือง Nice ทานตอนใต้ของฝรั่งเศส อาหารชนิดนี้มีชื่อเต็มว่า ratatouille niçoise
       คำว่า ratatouille มาจากภาษาอ็อกซิตันว่า "ratatolha" ราทาทุยปัจจุบันพบเห็นได้ที่ Occitan Provença และ Niça โดยมักจะทำในหน้าร้อนโดยใช้ผักในฤดูร้อน Ratatolha de Niça สูตรดั้งเดิมนั้นจะใช้เพียงแค่ ซุชีนี่, มะเขือเทศ, พริกหยวกแดงและเขียว, หัวหอม, และกระเทียม ราทาทุยในปัจจุบันจะมีการใส่มะเขือลงไปในส่วนผสมด้วย
     ปกติราทาทุยจะเสิร์ฟเป็นอาหารข้างเคียงกับอาหารหลัก หรือบางครั้งก็เสิร์ฟเป็นอาหารหลักบนโต๊ะอาหาร


ขนมปังฝรั่งเศส
     บาเกต ( baguette) หรือ ขนมปังฝรั่งเศส เป็นขนมปังมีลักษณะรูปทรงเป็นแท่งยาวขนาดใหญ่ เปลือกนอกแข็งกรอบ เนื้อในนุ่มเหนียว และเป็นโพรงอากาศ มักนำมาหั่นเฉียงเป็นแผ่นหนา เพื่อรับประทานกับซุป ปาดเนยสด หรือประกอบทำเป็นแซนด์วิช
     ปาเต ( pâté) เป็นอาหารยุโรปประเภทหนึ่ง ในภาษาฝรั่งเศสหมายถึงเนื้อบดผสมไขมัน ปาเตโดยทั่วไปมีลักษณะเป็นซอสสำหรับทา ทำจากเนื้อบดละเอียดหรือส่วนผสมของเนื้อและตับบดหยาบ ๆ และมักผสมไขมัน ผัก สมุนไพร เครื่องเทศ หรือไวน์ เป็นต้น
     ในประเทศฝรั่งเศสและประเทศเบลเยียม ปาเตอาจใช้เป็นไส้พายหรือขนมปังแถว เรียก "ปาเตอ็องกรูต" (ฝรั่งเศส: pâté en croûte) หรือใช้อบด้วยแตร์รีนหรือแม่พิมพ์แบบอื่น เรียก "ปาเตอ็องแตร์รีน" (ฝรั่งเศส: pâté en terrine) ปาเตประเภทที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ "ปาเตเดอฟัวกราส์" (ฝรั่งเศส: pâté de foie gras) ทำจากตับของห่านที่ขุนจนอ้วน คำว่า "ฟัวกราส์อองตีเยร์" (ฝรั่งเศส: foie gras entier) หมายถึง ตับห่านธรรมดาที่ได้รับการปรุงสุกและหั่นเป็นแผ่น ไม่ใช่ปาเต
     ส่วนในประเทศฮอลแลนด์ ประเทศเยอรมนี ประเทศฟินแลนด์ ประเทศฮังการี ประเทศสวีเดน และประเทศออสเตรีย ปาเตที่ทำจากตับบางชนิดจะมีลักษณะอ่อนยวบ โดยมากเป็นไส้กรอกที่ใช้ทาได้ ภาษาดัตช์เรียก "leverworst" ภาษาเยอรมันเรียก "leberwurst"


Athena Parthenos


วิหารพาร์เธนอน  คือวิหารโบราณบนเนินอะโครโพลิสในกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ สร้างเพื่อเป็นศาสนสถานบูชาเทพีเอเธนา หรือเทพีแห่งปัญญา ความรอบรู้ ในศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสต์ศักราช เป็นสิ่งก่อสร้างสถาปัตยกรรมกรีกโบราณที่มีชื่อเสียงที่สุด แสดงให้เห็นถึงความเฉลียวฉลาดของสถาปนิกในสมัยนั้นและถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก มีขนาดกว้าง 101.4 ฟุต หรือ 30.9 เมตร และ ยาว 228.0 ฟุต หรือ 69.5 เมตร
คำว่า พาร์เธนอน นั้นน่าจะมาจากประติมากรรมที่เคยตั้งอยู่ภายในวิหาร คือ Athena Parthenos ซึ่งมีความหมายว่า เทพีอันบริสุทธิ์
วิหารพาร์เธนอนสร้างตามการริเริ่มของเพริเคิล ผู้นำกรุงเอเธนส์ในสมัยนั้น และสร้างโดยมีประติมากรฟีเดียสเป็นผู้ควบคุมงาน การก่อสร้างเริ่มขึ้นเมื่อ 447 ปีก่อนคริสต์ศักราช ถึงแม้ว่าการก่อสร้างจะเสร็จสมบูรณ์เมื่อ 438 ปีก่อนคริสต์ศักราชแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีการตกแต่งเพิ่มเติมอีก 5 ปี บัญชีส่วนหนึ่งของการก่อสร้างครั้งนี้หลงเหลืออยู่ และแสดงให้เห็นว่างานที่มีค่าใช้จ่ายสูงสุด คือ การขนย้ายหินจากเขาเพนเทลิกัส ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเอเธนส์ไปกว่า 16 กิโลเมตร
วิหารพาร์เธนอนมีขนาดกว้าง 30.9 เมตร ยาว 69.5 เมตร (101.4 × 228.0 ฟุต) เสาภายนอกแต่ละต้นมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.9 เมตร (6.2 ฟุต) และสูง 10.4 เมตร (34.1 ฟุต) เสาที่หัวมุมของวิหารจะมีขนาดใหญ่กว่าเสาอื่นๆ เล็กน้อย หลังคาปูด้วยหินอ่อนซ้อนกัน
เมื่อนำขนาดของวิหารนี้มาคำนวณเป็นอัตราส่วน จะพบว่าหลายๆ แห่งเป็นอัตราส่วนทองคำ เสาด้านหน้าจะมี 8 ต้น และด้านข้างจะมี 17 ต้น